เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้กลับมาตื้นขึ้น

เติมเต็มร่องลึกต่างๆ บนใบหน้า สวยได้ดั่งใจนึก โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันทีด้วย Hyaluronic Acid ปลอดภัยด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก
    • เติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ด้วยสารเติมเต็ม ไฮยาลูรอนิก แอซิด
    • ริ้วรอยร่องลึกจึงแลดูลดเลือน
  • ช่วยดันผิวที่ยุบตัว ให้กลับมาตื้นขึ้น
  • ผิวแลดูกระชับเข้ารูปยิ่งขึ้น
Botulinum Toxin Hyaluronic Acid คืออะไร? Hyaluronic Acid คือ สารเติมเต็มที่ใช้สำหรับฉีดเพื่อเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนังส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะใช้ฟิลเลอร์เพื่อลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เกิดขึ้นบริเวณต่างๆของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก ริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา ริ้วรอยร่องลึกมุมปาก และยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้าได้อีกด้วย เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และในบางรายที่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นทำให้แก้มดูตอบลงก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ ในการแก้ปัญหาแก้มตอบได้ แม้กระทั่งนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กลับมากระชับเปล่งปลั่ง ในบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ รวมทั้งบริเวณผิวหน้าอก ปัจจุบันมีหลากหลายชนิดที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ และถูกนำมาใช้มากที่สุดคือ กรดไฮยาลูรอนิก แอสิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และใช้กันแพร่หลายทั่วโลกมากกว่าสารอื่นๆ เพราะผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยาในการใช้เพื่อเสริมความงาม กรดไฮยาลูรอนิค แอสิด  (Hyaluronic Acid) เรียกสั้นๆว่า HA (บางครั้งจะได้ยินว่า Hyaluronan หรือ Hyaluronate ซึ่งก็เป็นจำพวกเดียวกัน) คือ สารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย และร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เอง โดยทั่วไปจะพบอยู่มากที่บริเวณจุดเชื่อมต่อ ข้อต่อ ข้อเข่า เนื้อเยี่อ เซลล์ผิวหนัง โดยมีส่วนสำคัญในการเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี (โดยเฉพาะที่ข้อต่อ) และเพิ่มความยืดหยุ่นความชุ่มชื่นให้แก่เซลล์ผิวหนัง เพราะ กรดไฮยาลูรอนิค มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก โดยการสังเคราะห์ไฮยาลูรอนิกนี้ จะมีลักษณะโมเลกุลคล้ายกับสารไฮยาลูรอนิกในร่างกายมนุษย์ และเนื่องจากไม่ใช่เป็นคอลลาเจนที่ผลิตมาจากสัตว์ โอกาสที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจึงมีน้อย โดยคุณสมบัติของสารไฮยาลูรอนิกระยะเวลาเฉลี่ยโดยทั่วไปประมาณ 1 ถึง 2 ปี ในการยืดอายุฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นควรดื่มน้ำให้มากๆ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี และช่วยให้ผลการรักษายาวนานขึ้น ต่อการทำ 1 ครั้ง แล้วจะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นข้อดีของฟิลเลอร์ เพราะหากมีข้อผิดพลาดหรือผู้ที่ฉีดไม่พอใจเมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้ก็จะค่อยๆ ยุบตัว และสลายจนหมดไปเอง ประเภทของฟิลเลอร์ ในปัจจุบันมักทราบกันดีแล้วว่า Filler คืออะไร แต่มักสับสนระหว่างโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ ให้จำง่ายๆว่าฟิลเลอร์คือสารเติมเต็ม สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
  1. แบบชั่วคราว (Temporary Filler) จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 4-6 เดือน มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
  2. แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) แบบนี้จะมีอายุยาวกว่าแบบแรก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง
  3. แบบถาวร (Permanent Filler) จะเป็นสารเติมเต็มจำพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วจะสามารถอยู่ในผิวไปได้ตลอดไม่สลายไปตามธรรมชาติแต่ก็อาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว
การฉีด Hyaluronic Acid Hyaluronic Acid ถูกนำมาฉีดเพื่อช่วยในการปรับปรุงแก้ไขรูปหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง เสริมแก้ม หรือ เพิ่ม เติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า เติมเต็มร่องลึกต่างๆบนใบหน้า เช่นร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือแม้แต่การบำรุงผิวให้กลับกระชับ เปล่งปลั่ง สดใสอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือแม้กระทั่งบริเวณผิวที่หน้าอก เมื่อสาร Filler เป็นสารที่ร่างกายมีอยู่แล้ว ดังนั้นการฉีดสารนี้เข้าในผิวหนัง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสามารถย่อยสลายไปเองได้ ตามกระบวนการทำงานของร่างกาย โดยผลการรักษาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ส่วนสารฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานกว่า 1 ปี ปัจจุบันในเมืองไทย ยังไม่ผ่าน  อย. (ยกตัวอย่างเช่น (Aquramid ,Aqtaulif,Radiesse)  ไม่แนะนำให้ฉีด เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น โครงหน้าที่มีสารที่ฉีดที่ถ้าอยู่นานๆ ในระยะเวลาหลังๆอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอีกต่อไป  ที่สำคัญเมื่อไม่พอใจก็ไม่สามารถจะฉีดให้สลายออกไปได้ต้องรอเวลาให้สลายไปเอง การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับ
  • ผู้ที่ผิวหน้าไม่เรียบเนียน มีริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา มีรอยแผลเป็นจากสิว
  • อยากเสริมจมูก คาง โหนกแก้มเติมริมฝีปากให้เต็ม เติมแก้มตอบโดยไม่ต้องศัลยกรรม
ขั้นตอนการรับบริการฉีดฟิลเลอร์
  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าต้องการเติมเต็มริ้วรอยในบริเวณใด
  • ทำความสะอาดผิวหน้า
  • ใช้ยาชาชนิดครีมแปะบริเวณที่ต้องการฉีดประมาณ 30-40 นาทีหรือในบางกรณีแพทย์อาจใช้วิธีฉีดยาชาเฉพาะที่
  • แพทย์จะทำการฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด ในบริเวณที่ต้องการ
  • แพทย์จะทำการนวดบริเวณที่ได้รับการฉีดเบาๆ เพื่อให้ยากระจายตัวและเพื่อจัดรูปทรงให้ได้รูปสวยงามตามที่ต้องการ
ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์
  • ควรลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหลังฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมงแรก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก การสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า การออกแดดจัด เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่คงรูป อาจทำให้การฉีดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • หลังการฉีดฟิลเลอร์ 2-3 วัน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้ปวด วิตามินอี แป๊ะก็วย ฯลฯ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมหรือรอยช้ำบริเวณตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
  • งดการนวดหน้า ลอกหน้า กรอผิว การทำ AHA ทรีทเมนต์และการทำเลเซอร์ทุกชนิด หลังการฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • หลังการฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก ควรงดการสูบบุหรี่ การใช้หลอดดูดน้ำ การใช้ริมฝีปากขบเม้ม 1-2 สัปดาห์
  • หลังการฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ จะช่วยให้ประสิทธิภาพการเติมเต็มดีขึ้น
ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์
  • คนที่มีปฏิกิริยาแพ้ต่อสาร hyaluronic acid
  • ผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นนูนคีลอยด์ได้ง่าย
  • ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ควบคู่กับการทำเลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผลหรือการลอกผิวหน้าในบริเวณที่ฉีด
  • ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่ผิวหนังมีการอักเสบ หรือมีการติดเชื้อ

ก่อนทำ/ หลังทำ

ฟิลเลอร์
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล*
ฟิลเลอร์
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล*
ฟิลเลอร์
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล*

ติดต่อสาขาบริการ | โปรโมชั่นประจำเดือน


โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือหากไม่ต้องการให้แสดงข้อมูลอึกสามารถ ตั้งค่าที่นี่

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
0
    0
    สินค้าในตระกร้า
    ตระกร้าไม่มีสินค้า